2 มีนาคม 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม(อว.) นำคณะผู้บริหารหน่วยงานในกระทรวงอว. ลงพื้นที่ไปยังมหาวิทยาราชภัฏจังหวัดยะลาร่วมประชุมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยในภาคใต้ตอนล่างกว่า 10 มหาวิทยาลัยพร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาพื้นที่มุ่งหวังสร้าง”ด้ามขวาน 4.0″โดยใช้โครงการยุวชนสร้างชาติและ BCG Model เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเด็นนี้
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม บอกว่าการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 จำต้องอาศัยองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาโดยการที่จะทำให้ประเทศไทยต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงได้นั้นคือการพัฒนาเชิงพื้นที่ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาโดยการกระจายศูนย์กลางความเจริญลงไปยังแต่ละพื้นที่โดยเฉพาะภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพโดยกระทรวงอว. มุ่งหวังการพัฒนาให้เกิด”ด้ามขวาน 4.0″ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศโดยภาคใต้มีศักยภาพทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และสามารถเป็นศูนย์กลางเศรษฐศาสตร์ของอาเซียนวันนี้ทางกระทรวงอว. จึงลงพื้นที่เพื่อหารือกับมหาวิทยาลัยในภาคใต้ตอนล่างถึงแนวทางการขับเคลื่อนด้ามขวาน 4.0 ให้เกิดความสำเร็จในเชิงประจักษ์ภายใน 5-10 ปีข้างหน้าโดยการประชุมในครั้งรัฐมนตรีกระทรวงอว. ยังมอบโจทย์เชิงนโยบายไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมกันการขับเคลื่อนภาคใต้ให่เป็นต้นแบบ BCG Model ในระดับพื้นที่
โอกาสนี้ดร.ฉัตฉวี คงดี ผู้ช่วยผู้อำนวยการภารกิจส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ สำนักคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำเจ้าหน้าที่สกสว. เข้าร่วมประชุมและศึกษารวบรวมข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำมาวิเคราะห์และจัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อร่วมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศโดยอาศัยกลไกการทำงานของสกสว.
ในส่วนของนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมพ.ศ.2563-2570 มีการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศผ่านแพลตฟอร์ม 4 คือการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำโดยปีงบประมาณ 2563 สกสว. จะจัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมไปยังหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อสนับสนุนให้เกิดงานวิจัยและนวัตกรรมมีผลสัมฤทธิ์สำคัญคือชุมชนมีความสามารถในการจัดการตนเองมีความสามารถในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม / รายได้ของคนจนกลุ่มรายได้ร้อยละ 40 ล่างเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 อย่างทั่วถึง / เกิดการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและดัชนีการพัฒนาอย่างทั่วถึง ด้วยความรู้และนวัตกรรม