เริ่มต้นศักราชใหม่ ด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวทำบุญประจำปีซึ่งแลคตาซอยจัดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ชื่อทริปว่าแลคตาซอย แชริตี้ 2020 ตามรอยบุญสองฝั่งโขง หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ โดยในปีนี้มีผู้ร่วมเดินทางไปทำบุญไหว้พระเสริมมงคลอย่างคับคั่ง
คณะของแลคตาซอยเริ่มต้นออกเดินทางตั้งแต่เช้าโดยรวมพลกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อออกเดินทางไปสนามบินอุดรธานี และเดินทางต่อไปยังจังหวัดหนองคาย เป็นการเริ่มต้นทริปตามรอยบุญจากฝั่งไทยและเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการสวดมนต์พร้อมถวายสังฆทาน สักการะพญานาค และชมการแสดงรำบวงสรวงที่วัดพระธาตุบังพวนซึ่งเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลง อิฐดินเผา โดยนอกจากมีองค์พระธาตุแล้ว นับเป็นแห่งเดียวในโลกที่ยังคงหลงเหลือโบราณสถานจำลองสถานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ หลังจากตรัสรู้แล้วครบทั้ง 7 สิ่งนั่นเอง
จุดต่อไปคณะได้ลงเรือสักการะขอพรจากพระธาตุหนองคายกลางน้ำ พระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์พร้อมชมความสวยงามของศิลปะการปั้น อุทยานเทวาลัย ณ ศาลาแก้วกู่ จากนั้นไปถวายสังฆทานและสวดมนต์ขอพรกันที่วัดโพธิ์ชัย ที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก ตามประวัติ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง ตามตำนานที่เล่าสืบต่อๆกันมามีพระธิดา 3 องค์แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้างปัจจุบันด้วยความศรัทธาจึงมีผู้คนแวะเวียนเข้ามากราบไหว้สักการะทุกวันไม่ขาดสาย เป็นการจบทริปบุญในวันแรกในฝั่งไทย ก่อนคณะจะเดินทางข้ามด่านชายแดนไทย-ลาว และเข้าที่พักที่นครหลวงเวียงจันทร์
เริ่มต้นวันที่สองของทริปด้วยการเข้าสักการะพระธาตุหลวงเวียงจันทน์หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญของเมืองเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปี เช่นเดียวกับพระธาตุพนมในประเทศไทยเมื่อออกจากพระธาตุหลวงเวียงจันทน์แล้วแวะถ่ายรูปกับประตูชัยเป็นที่ระลึก
หลังจากนั้นออกเดินทางกันต่อโดยมีจุดหมายอยู่ที่ 2วัดนั่นคือ วัดองค์ตื้อวรวิหาร เวียงจันทน์เป็นหนึ่งในจำนวนหลายวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเวียงจันทน์ มีความสำคัญทางโบราณสถานและประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นวัดที่ทั้งประชาชนลาวและต่างชาวต่างประเทศให้ความเคารพนับถือจนมีคำพูดต่อกันมาว่า “ผู้ใดเข้ามาในเวียงจันทน์ ไม่ได้ไปไหว้หลวงพ่อองค์ตื้อ ถือว่าไม่ได้มาถึงเวียงจันทน์”
ปิดท้ายทริปในครั้งนี้ด้วยการให้ชาวคณะผูกข้อไม้ข้อมือกันที่วัดสีเมืองวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวลาวเป็นสถานที่ตั้งของศาลหลักเมือง ศาลเจ้าแม่ศรีเมือง และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรหรือพระแก้วมรกตด้วย โดยภายในวัดมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งที่ชำรุดไปแล้วบางส่วนตั้งประดิษฐานอยู่ ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้เป็นที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าใครมาขอพรเมื่อกลับไปแล้วส่วนใหญ่ก็จะสมดังปรารถนาตามที่ได้ขอพรไว้
เรียกได้ว่าผู้ร่วมทริปในครั้งนี้ได้อิ่มบุญอิ่มใจกันถ้วนหน้ากับการตะลอนออนทัวร์เติมบุญในกิจกรรมแลคตาซอย แชริตี้ 2020 ตามรอยบุญสองฝั่งโขง หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ ส่วนกิจกรรมแลคตาซอยแชริตี้ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ไหนนั้น กดติดตามข่าวสารกันได้ทางเฟซบุ๊กLactasoyเพื่อจะได้ไม่พลาดกิจกรรมดีๆ แบบนี้