ครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบอุปกรณ์การแพทย์แก่ 37 โรงพยาบาลทั่วประเทศ มูลค่า 110 ล้านบาท

“การให้” คือการมอบสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่นและสังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งสิ่งที่เรามอบให้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของที่มีค่าหรือมีราคาสูง หากแต่เป็นสิ่งของที่เขาขาดแคลน ก็จะเป็นการให้ที่สร้างสรรค์ และสามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้รับได้เป็นอย่างมาก และการให้นี้ถือเป็นการทำความดีที่ทุกสังคมต้องการ หากสังคมไหนมีแต่การให้สิ่งดี ๆ แก่กัน สังคมนั้นก็จะกลายเป็นสังคมที่มีแต่ความสุข

Advertisement

ในปัจจุบันสังคมของเราได้มีองค์กรการกุศลและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นองค์กรแห่งการให้ โดยมุ่งหวังให้สังคมมีแต่ความสุข ซึ่ง “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” ก็เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่มุ่งมั่นช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และบำรุงสุขให้แก่เพื่อนมนุษย์ และสังคมไทย โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นคณะเก็บศพไต้ฮงกง แล้วขยายบทบาทหน้าที่ช่วยเหลือสังคมในด้านอื่น ๆ ซึ่งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ได้ขยายขอบข่ายงานไปอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ทำให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นองค์กรสาธารณกุศลขนาดใหญ่ มีผลงานการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เอื้ออำนวยประโยชน์และความสุขแก่เพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากจากภัยพิบัติต่าง ๆ อย่างครบวงจรชีวิต คือ เกิด แก่ เจ็บ และตาย โดยไม่จำกัดชนชั้น วรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา เพศ และวัย โดยนอกจากจะมีโรงพยาบาลหัวเฉียวซึ่งเป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่ทันสมัยตามมาตรฐานที่สามารถช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ป่วยทุกสาขาโรคแล้ว มูลนิธิฯยังสงเคราะห์ ส่งเสริมการศึกษาอันเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชาติ และได้ปรับปรุงขยายวิทยาลัยหัวเฉียวให้เป็นมหาวิทยาลัย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อให้ว่า “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้เพิ่มบทบาทและพัฒนาศักยภาพตามกระบวนการแห่งวิสัยทัศน์อันเป็นรูปธรรม ของคณะกรรมการที่สอดรับกับสภาพสังคมแต่ละยุค นำไปสู่การยกระดับและพัฒนาการช่วยเหลือในด้าน ต่าง ๆ ในระดับสากล ทั้งงานบรรเทาสาธารณภัยที่ได้มีการร่วมฝึกซ้อมการป้องกันพิบัติในระดับนานาชาติ งานยกระดับการสนับสนุนด้านนิติเวชร่วมกับภาครัฐ รวมถึงการขยายความช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นอกจากนี้ยังได้ก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมดำเนินการให้ความรู้ประชาชน และเพิ่มพูนศักยภาพแก่อาสาสมัครกู้ชีพโดยวิทยากรผู้ชำนาญเฉพาะด้านทั้งจากภายในและภายนอก ซึ่งนอกจากความพร้อมทางด้านบุคลากรและเครื่องมือแล้ว ยังได้ยกระดับระบบการช่วยเหลือสอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์วิทยุกรุงเทพ และช่องทาง การแจ้งเหตุที่ ประชาชนสามารถติดตามการช่วยเหลือฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงทีผ่านทางแอปพลิเคชัน ป่อเต็กตึ๊ง 1418 เพื่อตอบสนองเจตนารมณ์ของผู้บริจาคให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ให้การช่วยเหลือประชาชนครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ดำเนินการภายใต้คำขวัญ “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ในปี 2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ดำเนินงานมาเป็นปีที่ 110 แล้ว จึงได้จัดงานฉลอง “ครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” โดยทางมูลนิธิฯ และหน่วยงานภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว จึงมีความตั้งใจที่จะจัดกิจกรรมพิเศษขึ้นภายใต้แนวคิด “ความดีที่ยั่งยืน” โดยจะมีการกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นตลอดปี

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า “ปีนี้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งครบรอบ 110 ปี เราคำนึงถึงเรื่องการช่วยชีวิต รักษาชีวิต และสร้างชีวิต นี่เป็นคำขวัญของ 110 ปี ความดีที่ยั่งยืนของเรา ซึ่งผมคิดว่าความดีเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่านี่เป็นการทำดีที่ยั่งยืนก็คือการให้ และต้องเป็นการให้ในสิ่งที่เขาต้องการ จำเป็นต้องใช้ ในฐานะที่เราเป็นองค์กรสาธารณกุศล ซึ่งได้ช่วยสังคมมาแล้ว 110 ปี งานหลักของเราคือการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่าง ๆ และเมื่อช่วยชีวิตแล้วก็ต้องรักษาชีวิต แต่หากขาดเครื่องมือที่จำเป็นก็ไม่สามารถช่วยชีวิตใครได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยสำคัญที่สุด คือ เครื่องมือในการรักษา ซึ่งมูลนิธิเล็งเห็นถึงปัจจัยดังกล่าว ในปีพ.ศ. 2562 จึงได้ริเริ่มประสานไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และจัดงบประมาณพิเศษสำหรับการฉลองครบรอบ 110 ปี เป็นจำนวนเงิน 110 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นในการช่วยชีวิต รักษาชีวิตของผู้ป่วย อาทิ เครื่องช่วยหายใจ ตู้อบเด็กสำหรับทารกแรกเกิด และเครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นต้น โดยมอบให้กับโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 11 แห่ง และโรงพยาบาลโรงพยาบาลในท้องถิ่นห่างไกลในต่างจังหวัด 22 จังหวัด จำนวน 26แห่ง ซึ่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่แต่ละโรงพยาบาลแสดงความประสงค์ว่าจำเป็นต้องใช้ และเราได้พิจารณาแล้วว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน อีกทั้งมูลนิธิฯ มองเห็นว่ายังมีโรงพยาบาลอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล ที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นยิ่ง ถึงแม้โรงพยาบาลเหล่านั้น จะมีบุคคลากรที่มีความรู้และความสามารถ แต่หากขาดซึ่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ก็มิอาจช่วยชีวิต รักษาชีวิตประชาชนได้อย่างเต็มที่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินดังเช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โดยได้จัดพิธีมอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่โรงพยาบาลรวม 37 แห่ง ไปแล้วเมื่อกลางเดือนมีนาคม 63 ที่ผ่านมา

การจัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เตรียมจัดโครงการ และกิจกรรมเพื่อสังคม ตลอดปี 2563 อาทิ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง การจัดตั้งโรงครัวบริการอาหารและน้ำดื่ม การบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตามชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งก่อสร้างอาคารที่จอดรถ ที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ วิทยาเขตยศเส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ หน่วยงานในเครือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ จัดตั้งโครงการทุนการศึกษาด้านภาษาจีน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์, เปิดศูนย์ฟื้นฟูดูแลผู้สูงอายุ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพและบริการทางการแพทย์ และ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว จัดกิจกรรมด้านวิชาการเพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพและแพทย์แผนจีน พร้อมทั้งมีหน่วยแพทย์จีนออกไป ให้บริการตรวจรักษาและให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพทั้งในและนอกสถานที่ เป็นต้น

แต่เนื่องจากขณะนี้ ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19)  มูลนิธิฯ และหน่วยงานในเครือจึงได้ปรับแผน และเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนทั้งในด้านบรรเทาทุกข์ จัดตั้งโครงการเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนเพื่อช่วยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID—19)  รวมทั้งจัดทำสาระน่ารู้ต่างๆ  ทั้งนี้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมสร้างความดีที่ยั่งยืน ดูแลตนเอง และสังคม เว้นระยะห่าง ร่วมด้วยช่วยกันฟันฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน  ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung