แม็คโคร ปูพรมรับซื้อผลไม้บรรเทาโควิด-19 หลังส่งออกลดฮวบ ปลุกกระแสรณรงค์บริโภคผลไม้ตามฤดูกาล

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  บรรเทาความเดือดร้อนชาวสวนผลไม้ ที่โดนผลกระทบโควิด-19 ประสบปัญหาการส่งออก มีแนวโน้มราคาตกต่ำ จัดทีมปูพรมรับซื้อทั้งผลไม้ตามฤดูกาล พร้อมชวนคนไทยอุดหนุนชาวสวน ปลุกกระแสรณรงค์บริโภคผลไม้ไทยทุกสาขา

Advertisement

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า COVID -19 ได้ส่งผลกระทบในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เฉพาะอย่างยิ่ง ภาคการเกษตร  มีแนวโน้มผลไม้ล้นตลาดมากกว่าปีก่อน  แม็คโครจึงเร่งส่งทีมจัดซื้อพูดคุยกับเกษตรกร และรับซื้อผลผลิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงนี้ พร้อมทั้งจัดโปรโมชั่น และประชาสัมพันธ์ สร้างกระแสรณรงค์ให้คนไทยอุดหนุนสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

“เป็นที่ทราบกันดีว่า ผลผลิตทั้งหมดของผลไม้ตามฤดูกาลที่ออกมาแต่ในละปี จะมีการบริโภคภายในประเทศเพียง 30 เปอร์เซนต์ ส่งออกถึง 70 เปอร์เซนต์  แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ที่เกิดขึ้น ชาวสวนต้องประสบปัญหาในการส่งออก   ขณะที่ปริมาณผลผลิตคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มมากกว่าปีที่แล้ว เราทุกภาคส่วนจึงต้องช่วยกันกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้น  แม็คโคร จึงได้เพิ่มปริมาณการรับซื้อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่กำลังเข้าสู่ช่วงขายผลไม้ตามฤดูกาล โดยวางแผนซื้อเพิ่มจากปีก่อนถึง 40 เปอร์เซนต์  อาทิ ทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด มะม่วง  โดยเน้นกระจายสินค้าผ่านทุกสาขาของแม็คโครทั่วประเทศให้มากขึ้น และยังจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย รณรงค์การบริโภคผลไม้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปี คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ ลดความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ระดับหนึ่ง”

ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน  แม็คโครจัด เทศกาลผลไม้ฤดูกาล ภาคตะวันออก  จำหน่าย เงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง  ที่ได้มาตรฐานปลอดภัยในแม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ และได้เพิ่มความถี่ในการจัดโปรโมชั่นของสินค้ากลุ่มนี้  ตลอดจนเน้นการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย

“แม็คโครในฐานะศูนย์จำหน่ายอาหารคุณภาพปลอดภัย ขอเป็นแรงสนับสนุนด้านการตลาดเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าให้เกษตรกร ผ่านการรับซื้อ กระจายผลผลิต และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ภายใต้ความเชื่อมั่นที่ว่า หากเกษตรกรอยู่ได้ เศรษฐกิจไทยก็จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน”  นางศิริพร กล่าว