“ราชทัณฑ์” จับมือ “มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก” หนุน “เสริมพลังให้แม่ในคุก ลูกในครรภ์ คืนพ่อจากคุกให้ลูก คืนสุขให้บ้าน”

“กรมราชทัณฑ์” และ “มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก” ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “เสริมพลังให้แม่ในคุก ลูกในครรภ์ คืนพ่อจากคุกให้ลูก คืนสุขให้บ้าน” โดยมี นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหาร และนายเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ร่วมลงนาม พร้อมด้วยนางสาววริศรา ศิริสุทธิเดชา ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย และนางริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ร่วมเป็นพยานในบันทึกข้อตกลงฯ ณ ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ ชั้น 3 จังหวัดนนทบุรี

Advertisement

นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักสนับสนุนกลุ่มประชากรเฉพาะ ดำเนินโครงการเสริมพลังให้พ่อ แม่ ลูกหลังกำแพง : เสริมพลังบวก สร้างพลังใจ ให้ พ่อ แม่ ลูกในเรือนจำสุขภาวะ โดยกรมราชทัณฑ์ ถือเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการควบคุมดูแลและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ต้องขังมีระเบียบวินัย และมีความรู้ ควบคู่กับทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ต้องขัง โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่เป็นแม่หรือพ่อ ที่มีบทบาทสำคัญในครอบครัว การขาดหายของพวกเขาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของตัวเอง แต่ยังส่งผลต่อความเป็นอยู่ของครอบครัว และพัฒนาการของลูกอีกด้วย ดังนั้น การพัฒนาความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและการสนับสนุนด้านจิตใจถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ต้องขังสามารถปรับตัวได้ดีเมื่อพ้นโทษ

นายชาญ กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ และมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ได้ดำเนินการโครงการดังกล่าวร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างพลังจิตใจให้กับ ผู้เป็นแม่ที่ต้องอยู่ในเรือนจำ และลูกที่อยู่ในครรภ์หรือลูกที่ยังคงอยู่ในความดูแลของมารดาผู้ต้องขัง ตลอดจนฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัวของผู้ต้องขังชายที่มีลูก เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถเตรียมความพร้อมที่จะกลับสู่สังคมในฐานะพ่อและแม่ที่มีคุณภาพ ซึ่งโครงการนี้จะใช้สื่อการเรียนรู้และกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยผ่านการอ่านหนังสือ และที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการในเรือนจำ/ทัณฑสถาน 7 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางเชียงราย เรือนจำกลางนครสวรรค์ เรือนจำกลางเขาบิน ทัณฑสถานหญิงกลาง ทัณฑสถานหญิงธนบุรี และเรือนจำจังหวัดนนทบุรี โดยผลลัพธ์จากโครงการ คือ การเยียวยาจิตใจและฟื้นฟูสร้างสุขภาพจิตของแม่ตั้งครรภ์และแม่ลูกอ่อน และกลุ่มผู้ต้องขังชายที่กำลังจะพ้นโทษ ได้เกิดแรงบันดาลใจและแนวคิดการดำเนินชีวิตในเชิงบวก รวมถึงการเสริมสร้างบทบาทการเป็นพ่อ แม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่ลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นและสนับสนุนภารกิจของกรมราชทัณฑ์ในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี

“ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้มีการขยายพื้นที่การดำเนินการโครงการเพิ่มขึ้นอีก 6 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางนครราชสีมา เรือนจำกลางเชียงใหม่ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เรือนจำกลางนครปฐม ทัณฑสถานหญิงสงขลา และเรือนจำจังหวัดสงขลา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังได้รับการเยียวยา ฟื้นฟู พัฒนาจิตใจ และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว พัฒนาศักยภาพตนเอง สามารถดำรงชีวิตและทำหน้าที่ แม่ และพ่อได้ แม้จะถูกจองจำอยู่ในคุก รวมถึงเมื่อพ้นโทษกลับคืนสู่สังคมต่อไป” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว