แม็คโครรับซื้อผลไม้ชาวสวนเพิ่มอีก 40% ช่วยระบายผลผลิต ทุกสาขากระตุ้นไทยช่วยไทย ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม MOU กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ รับซื้อผลไม้ฤดูกาลจากเกษตรกรในปี 2563 เพิ่มจากปีก่อน40%หวังช่วยชาวสวนบรรเทาผลผลิตล้นตลาดจากสถานการณ์โควิด-19พร้อมจัด “เทศกาลผลไม้ฤดูกาล ภาคตะวันออก” ขนทัพ ทุเรียน เงาะ มังคุดสละ อัดแคมเปญใหญ่ เน้นไทยช่วยไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ

Advertisement

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องด้วยมีการคาดการณ์ว่า ปี 2563 ผลไม้ฤดูกาลจะมีผลผลิตจำนวนมาก และส่วนใหญ่กระจุกตัวภายในประเทศ ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ซึ่งอาจทำให้การส่งออกลดลง แม็คโคร ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าส่งที่สนับสนุนผลผลิตเกษตรกรไทยมาโดยตลอดจึงได้วางแผนการรับซื้อเพิ่มขึ้นและได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการรับซื้อผลไม้จากชาวสวนกับสองกระทรวงหลักอย่าง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมจัด “เทศกาลผลไม้ฤดูกาล ภาคตะวันออก” ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยช่วยกันอุดหนุนผลผลิตชาวสวน

“ในภาวะเช่นนี้ทุกคนต้องช่วยกัน  แม็คโครขอเป็นแรงสนับสนุนด้านการตลาดให้เกษตรกร ผ่านการรับซื้อ กระจายผลผลิต เพื่อไม่ให้เกิดภาวะล้นตลาด ราคาสินค้าตกต่ำ โดยจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ภายในประเทศตลอดทั้งปี เริ่มจากงานเทศกาลผลไม้ฤดูกาลภาคตะวันออก ที่จัดขึ้นในทุกสาขาของแม็คโครตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน”

สำหรับในปี 2563 นี้ แม็คโคร ตกลงรับซื้อผลไม้ตามฤดูกาลจากเกษตรกรในภาคต่างๆ  มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 40 เปอร์เซนต์  อาทิเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง สละจากสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ภาคตะวันออก   ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรนายายอาม ,สหกรณ์การเกษตร เมืองขลุง, สหกรณ์การเกษตรมะขาม ,สหกรณ์การเกษตรคิชฌกูฎ,วิสาหกิจชุมชน ปัฎวี จำนวนกว่า 4,000 ตัน

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์ว่าปี 2563 ประเทศไทยจะมีปริมาณผลไม้ออกสู่ตลาด รวม 3,072,591 ตัน  โดย84 เปอร์เซนต์ของปริมาณผลไม้ทั้งหมด คือ ทุเรียน ลำไย และมังคุด

“แม็คโครหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ให้มีช่องทางในการจำหน่ายขายผลผลิตได้ในราคาเป็นธรรม สร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกรชาวสวนของไทย” นางศิริพร กล่าวทิ้งท้าย